เปิดแนวคิด'อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 'ธรรมาภิบาล-ยั่งยืน

image (11)

“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้วางมือทางการเมืองโดยลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ทำให้หลายคนสงสัยว่าอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีดีกรีเป็นด็อกเตอร์ด้านเศรษฐศาสตร์ โดยเริ่มต้นชีวิตการทำงานด้วยการเป็นอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อน มาเล่นการเมือง ปัจจุบันเขามีกิจกรรมในชีวิตด้านใดบ้าง

ล่าสุด อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เข้ารั้งตำแหน่งรองประธานกรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC  ผู้จัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคชั้นนำของไทย      ในฐานะประธานธรรมาภิบาลและการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน พร้อมกับเปิดเผยคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนว่า  เป็นโจทย์ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญและพยายามทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสหพัฒนพิบูล (SPC) มีการดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอสินค้าดี ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยอยู่ภายใต้ 3 หลักใหญ่ ได้แก่ 1. สิ่งแวดล้อม 2. ความรับผิดชอบต่อสังคม และ 3. ธรรมาภิบาล เพื่อให้สอดรับกับแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) เพื่อให้ทุกชีวิตในสังคมเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน

สำหรับแผนกลยุทธ์ของ SPC ในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน Sustainability ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสำรวจคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ในเรื่องของการใช้พลังงานในกระบวนการขนส่งของบริษัท ซึ่งได้ดำเนินการในขอบข่ายที่1 และ 2 ไปแล้ว และขยายไปยังกลุ่มซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบว่ามีส่วนใดที่จะต้องปรับปรุงหรือพัฒนาต่อ โดยได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการรวบรวมจัดเก็บข้อมูลให้มีความแม่นยำและรวดเร็วมากขึ้น นำมาซึ่งการลดต้นทุนการใช้ทรัพยากร ลดความผิดพลาดระหว่างทางได้ ควบคู่ไปกับการกระตุ้นภายในองค์กรในการคิดค้นนวัตกรรมในการพัฒนาการผลิตสินค้า รวมไปถึงปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับแนวคิด ESG โดยมีแผนเร่งให้แล้วเสร็จทั้ง 3 ขอบข่ายภายในปี 2568 เพื่อนำไปสู่การตั้งเป้าหมายและกรอบระยะเวลาในการลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์อย่างเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในระยะต่อไป

“ที่ผ่านมา บริษัท ฯ ได้ดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่เป็นรูปธรรม เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม ปี 2563 ได้เริ่มต้น โครงการ “Green PLEASE by SPC” โดยการนำขวดพลาสติก Pet ที่ใช้แล้วกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ โดยเริ่มจากการรณรงค์ภายในจัดตั้งตู้ทิ้งขวดพลาสติกในองค์กรและส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงการคัดแยกขยะก่อนทิ้ง ซึ่งตั้งแต่ดำเนินโครงการ ที่ผ่านมาได้ร่วมส่งต่อขวดพลาสติกไปรีไซเคิลจำนวนทั้งหมด 69,750 ใบ หรือ 1,110 กิโลกรัม ลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ 3,439.84 kgCo2e. (เทียบเท่าการปลูกต้นไม้ 383 ต้น)”รองซีอีโอด้านธรรมาภิบาลฯกล่าว

น้ำสมุนไพรก้านตอง

Privacy Policy

|

Cookie Policy

|

Terms Condition

© 2024 13livetv.com. All rights reserved.