เจ้าหน้าที่รัฐอะแลสกา มองหานักลงทุนในเอเชีย หลังทรัมป์ผลักดัน “แอลเอ็นจี”

ผู้ว่าการรัฐอะแลสกา และตัวแทนของรัฐ จะเริ่มเดินทางเยือนญี่ปุ่น และอีก 3 ประเทศในเอเชียตั้งแต่สัปดาห์นี้ เพื่อชักชวนนักลงทุนเข้าร่วมโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า จะสร้างรายได้หลายล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้บริษัทพลังงานของญี่ปุ่น ยังคงมีความสงสัยอยู่ก็ตาม

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ว่า เจ้าหน้าที่จากบริษัท อะแลสกา แก๊สไลน์ เดเวลอปเมนต์ คอร์ปอเรชัน (เอจีดีซี) และบริษัท เกลนฟาร์น กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นหุ้นส่วนด้านการพัฒนา จะเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรในเอเชีย เพื่อให้ผู้นำอุตสาหกรรมทราบถึงข้อได้เปรียบทางเศรษฐกิจและการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ของแอลเอ็นจี และหารือเกี่ยวกับโอกาสในการมีส่วนร่วม

อนึ่ง เจ้าหน้าที่รัฐอะแลสกา ต้องการส่งก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่ทางเหนืออันห่างไกลของรัฐ ไปยังตอนใต้ ผ่านท่อส่งก๊าซความยาว 1,300 กิโลเมตร มูลค่า 44,000 ล้านบาท (ราว 1.47 ล้านล้านบาท) เพื่อขนส่งในรูปแบบแอลเอ็นจี ไปยังญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน

สำหรับการเยือนประเทศในเอเชียครั้งนี้ ซึ่งจะมีนายไมค์ ดันเลวีย์ ผู้ว่าการรัฐอะแลสกา ร่วมเดินทางด้วย จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 19-30 มี.ค. โดยกลุ่มเจ้าหน้าที่มีแผนที่จะเดินทางเยือนไต้หวัน ประเทศไทย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น

ด้านนายเจฟฟ์ เทอร์เนอร์ โฆษกของดันเลวีย์ กล่าวว่า ดันเลวีย์จะจัดการหารือระดับสูงกับบรรดาผู้นำในประเทศข้างต้น และผู้บริหารองค์กร เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับท่อส่งก๊าซ ซึ่งหากสามารถดำเนินโครงการได้ รัฐอะแลสกาก็สามารถเป็นผู้จัดหาก๊าซแอลเอ็นจีที่มั่นคงให้กับภูมิภาคแปซิฟิกได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ทรัมป์กำลังผลักดันการขายพลังงานให้ประเทศพันธมิตรในเอเชีย ควบคู่กับการข่มขู่ด้วยภาษีทางการค้า ตลอดจนฟื้นฟูความทะเยอทะยานด้านแอลเอ็นจีของรัฐอะแลสกา ซึ่งก่อนหน้านี้ เขาได้ขอการสนับสนุนจากญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ และแสดงความต้องการเป็นหุ้นส่วนในก๊าซแอลเอ็นจีของรัฐอะแลสกา.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/news/4509081/