โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคาร (7 ม.ค.) ไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหาร หรือมาตรการทางเศรษฐกิจ ให้ได้มาซึ่งคลองปานามาและเกาะกรีนแลนด์ ส่วนหนึ่งในวาระขยายดินแดนอย่างกว้างๆ ที่เขาเคยพูดหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม บอกด้วยว่าเขาจะเรียกร้องให้บรรดาพันธมิตรนาโตยกระดับการใช้จ่ายด้านกลาโหมมากขึ้น และรับปากว่าจะเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้ได้หยิบยกแนวคิดเปลี่ยนแคนาดากลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของสหรัฐฯ มาแล้วเช่นกัน
ในขณะที่เหลืออีก 2 สัปดาห์ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ เริ่มวางกรอบนโยบายต่างประเทศเชิงก้าวร้าวกว่าเดิม แทบไม่คำนึงถึงข้อควรพิจารณาทางการทูต หรือความกังวลใดๆ ในบรรดาพันธมิตรของสหรัฐฯ
เมื่อถูกถามระหว่างการแถลงข่าว ณ รีสอร์ตในฟลอริดาของเขา ว่าเขาจะรับประกันกับโลกหรือไม่ว่าจะไม่ใช้กำลังทหารหรือมาตรการขู่บังคับทางเศรษฐกิจ ในความพยายามให้ได้มาซึ่งการควบคุมคลองปานามาและเกาะกรีนแลนด์ ทรัมป์ตอบว่า "ไม่ ผมไม่อาจรับประกันกับพวกคุณทั้ง 2 อย่าง แต่ผมสามารถบอกได้ว่า เราต้องการคลองปานามาและเกาะกรีนแลนด์ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ"
ทรัมป์ ยังได้วิพากษ์วิจารณ์อเมริกาต่อการใช้จ่ายซื้อสินค้าแคนาดาและสนับสนุนทางทหารแก่แคนาดา โดยบอกว่าสหรัฐฯ ไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เลยจากการทำเช่นนั้น และเรียกแนวชายแดนระหว่าง 2 ประเทศว่าเป็น "เส้นเทียม"
นอกจากนี้แล้ว ทรัมป์บ่งชี้ด้วยว่าเขาจะกำหนดมาตรการรีดภาษีเล่นงานเดนมาร์ก หากว่าขัดขืนข้อเสนอของเขาในการขอซื้อเกาะกรีนแลนด์ ที่เขาบอกว่ามีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ความคิดเห็นนี้ของว่าที่ประธานาธิบดีอเมริกา มีขึ้นไม่นานหลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ลูกชายของเขา เดินทางถึงเกาะกรีนแลนด์ ในการเยือนแบบส่วนตัว
ส่วน เมลานี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา เขียนบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ตอบโต้ ทรัมป์ ต่อกรณีพูดซ้ำๆ ว่าอยากผนวกแคนาดาเข้าเป็นรัฐหนึ่งๆ ของสหรัฐฯ โดยบอกว่า "ความเห็นของว่าที่้ประธานาธิบดีทรัมป์ แสดงให้เห็นว่าเขาขาดความเข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าอะไรที่ทำให้แคนาดาเป็นประเทศที่เข้มแข็ง เศรษฐกิจของเราแข็งแกร่ง และประชาชนของเราเข้มแข็ง เราจะไม่ยอมจำนนต่อคำขู่ใดๆ"
พวกเจ้าหน้าที่เม็กซิโกและปานามา ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น แต่ โฮเซ ราอูล มูลิโน ประธานาธิบดีปานามา เคยปฏิเสธความคิดที่จะปล่อยคลองปานามากลับไปอยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ซึ่งเคยเป็นเจ้าของคลองแห่งนี้ ก่อนส่งมอบการควบคุมแก่ปานามา ในปี 1999
ดาเนียล ไฟร์ อดีตนักการทูตสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้ทำงานให้สถาบันวิจัยสภาแอตแลนติก บอกว่าความเห็นของทรัมป์เป็นการวาดภาพพลังอำนาจของประเทศที่ต้องการขยายเขตแดน และเปรียบเทียบ ทรัมป์ กับพวกนักจักรวรรดินิยมในยุคศตวรรษที่ 19
ในเรื่องการยึดเกาะกรีนแลนด์ ไฟร์ มองว่า "มันจะทำลายนาโต เพราะว่ามันทำให้เราไม่ต่างจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย"
ทรัมป์ บอกว่าสมาชิกนาโตควรใช้จ่ายด้านกลาโหม 5% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นอย่างมากจากระดับเป้าหมายในปัจจุบัน 2% "ผมคิดว่านาโตควรมี 5% พวกเขาสามารถจ่ายได้ พวกเขาควรจ่าย 5% ไม่ใช่ 2%"
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ แสดงความคร่ำครวญบ่อยครั้งว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของนาโต ไม่จ่ายในสัดส่วนที่ยุติธรรม และหยิบยกแนวคิดเรียกร้องให้สมาชิกนาโตยกระดับการใช้จ่ายด้านกลาโหม ระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง
นาโต คาดการณ์ว่าสมาชิก 23 ชาติ จากทั้งหมด 32 ประเทศ จะทำได้ตามเป้าหมายใช้จ่ายด้านกลาโหม 2% ของจีพี ในปี 2024
ข้อมูลของนาโต พบว่าไม่มีสมาชิกพันธมิตรทหารแห่งนี้รายใด ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ ที่ใช้จ่ายในระดับ 5% ของจีดีพี โดยสูงสุดคือ โปแลนด์ อยู่ที่ 4.12% ของจีดีพี ตามด้วย เอสโตเนีย 3.43% และสหรัฐฯ 3.38%
ทรัมป์ ยังได้เน้นย้ำคำขู่ว่า "ขุมนรกจะระเบิดขึ้นในตะวันออกกลาง" หากว่าพวกฮามาส กลุ่มนักรบปาเลสไตน์ ไม่ปล่อยตัวประกันที่พวกเขาจับตัวไประหว่างปฏิบัติการจู่โจมอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 และยังควบคุมตัวอยู่ในกาซา ออกมาก่อนหน้าเขาเข้ารับตำแหน่ง
"มันจะไม่เป็นเรื่องดีสำหรับฮามาส และพูดตรงๆ มันจะไม่เป็นเรื่องดีสำหรับทุกฝ่าย" เขากล่าว
(ที่มา : รอยเตอร์)
© 2024 13livetv.com. All rights reserved.